แครนเบอร์รี่ เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เป็นพืชพื้นเมืองที่เพาะปลูกกันมากในเขตพื้นที่เขตหนาว แถบตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา แคนาดา ยุโรป และรัสเซีย จัดเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ถูกขนานนามว่าเป็น "Super fruits"
แครนเบอร์รี่สกัด
โดยทั่วไปการรับประทานแครนเบอร์รี่ ให้ได้คุณค่าทางอาหารสูงสุด มักนิยมรับประทานผลสด หรือแปรรูปเป็นน้ำแครนเบอร์รี่ ซึ่งจะต้องรับประทานในปริมาณที่ค่อนข้างมาก เพื่อที่จะได้รับประโยชน์ตามที่ต้องการ ดังนั้นในปัจจุบัน จึงได้มีการนำผลแครนเบอร์รี่มาสกัดให้อยู่ในรูปแบบแคปซูล เพื่อให้ได้สารสกัดมาตรฐาน ซึ่งมีความปลอดภัยและสะดวกในการรับประทาน
แครนเบอร์รี่สกัด พบว่ามีสารสำคัญกลุ่มไบโอฟลาโวนอยด์ OPC (Oligomeric Proanthocyanidins) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงกว่าวิตามินอีถึง 25 เท่า และมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบสารอาหารที่สำคัญอีกหลายชนิด เช่น วิตามินเอ ซี เค เบต้าแคโรทีน แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส โปตัสเซียม และใยอาหาร
ประโยชน์ของแครนเบอร์รี่สกัด
1.บำรุงผิว คงความกระชับ แลดูอ่อนวัย
สาร OPC ในแครนเบอร์รี่มีคุณสมบัติจับกับอนุมูลอิสระ ที่คอยทำลายเซลล์ผิวหนัง เพิ่มความแข็งแรงให้กับคอลลาเจน และยับยั้งเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจน ซึ่งเป็นตัวการทำลายความยืดหยุ่นของชั้นผิว จึงส่งผลให้ผิวคงความกระชับ และดูสดใส มีน้ำมีนวลอยู่เสมอ
2.กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ
สาร OPC เป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และความแข็งแรงของหลอดเลือด มีงานวิจับพบว่า OPC สามารถป้องกันไม่ให้ cholesterol ชนิดร้าย (LDL) ถูกออกซิไดส์ ซึ่งเชื่อว่ากระบวนการนี้ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis) ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
3.ชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา
ลูทีนและซีแซนทีน (Lutein&Zeaxanthin) สารธรรมชาติกลุ่ม bioflavonoid พบมากที่สุดตรงบริเวณจุดรับภาพของลูกตา ซึ่งอยู่กลางจอตา (retina) โดยสารทั้งคู่จะทำหน้าที่กรอง ป้องกันรังสีจากแสงแดดที่เป็นอันตรายต่อดวงตา ปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลายโดยการลดอนุมูลอิสระ และกรองแสงสี้น้ำเงินที่จะทำลายดวงตา และสามารถลดอุบัติการณ์ในโรคต้อกระจก และโรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุได้
4.ป้องกันการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะในผู้หญิง
จากการศึกษาในกลุ่มผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ กับการรักษาอาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ พบว่าแครนเบอร์รี่ มีศักยภาพในการป้องกันการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ โดยโมเลกุล NDM ในแครนเบอร์รี่มีฤทธิ์ยับยั้งการฝังตัวที่ผนังกระเพาะ และท่อปัสสาวะของเชื้อ E.coli สามารถลดอัตราการติดเชื้อได้ถึง 50%
5.ป้องกันฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบ
จากการทดสอบทางคลีนิก พบว่าโมเลกุล NDM ยังสามารถหยุดยั้งไม่ให้แบคทีเรียก่อตัวบนพื้นผิวของฟัน และลดอาการฟันผุ ป้องกันโรคเหงือกอักเสบ
ขนาดรับประทาน
รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล (1000mg) วันละ 2 ครั้งหลังอาหาร
(ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่าง ๆ เป็นเพียงแค่ตัวช่วยเสริมหรือทางเลือก สำหรับคนที่มีข้อจำกัดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเวลา ร่างกาย สถานที่ ฯลฯ เราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ก็เพียงพอที่จะทำให้สุขภาพแข็งแรง ดูสดชื่น โดยไม่จำเป็นต้องพึ่ง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่าง ๆ แล้ว)