ข้อบ่งใช้ของ Benzoyl Peroxide
ใช้สำหรับรักษาสิวในระดับที่ยังเป็นน้อยถึงปานกลาง ซึ่งอาจจะใช้ร่วมกับยารักษาสิวชนิดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา หรือเมื่อการใช้ยาเพียงชนิดเดียวไม่ได้ผล
โดย Benzoyl Peroxide จะทำให้ปริมาณของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวลดลง และยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน รวมทั้งยังทำให้ผิวแห้งลง
วิธีใช้ Benzoyl Peroxide
ก่อนการใช้ Benzoyl Peroxide ควรมีการทดสอบการแพ้โดยการทายาบาง ๆ บริเวณสิวเป็นบริเวณเล็ก ๆ ประมาณ 1 - 2 ตำแหน่ง เป็นเวลา 3 วัน ถ้ามีอาการแพ้ ให้หยุดใช้ยาทันที อาการแพ้จะค่อย ๆ ทุเลาลง ถ้าทายาครบ 3 วันแล้วไม่มีอาการแพ้ แสบ ก็สามารถทายาได้
ยาที่มี Benzoyl Peroxide เป็นตัวยาสำคัญมีจำหน่ายมากมาย ที่รู้จักกันในไทยตัวอย่างเช่น
ยี่ห้อ Benzac Aknederm Enzoxid ส่วนใหญ่จะมีจำหน่าย 2 ความเข้มข้นคือ 2.5% และ 5% ก่อนเลือกใช้ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อน เพื่อประเมินความเหมาะสมว่าลักษณะผิว ความรุนแรงของสิว ควรจะใช้ความแรงเท่าไหร่ และจะใช้ร่วมกับยาอื่นหรือไม่
ยี่ห้อ Benzac Aknederm Enzoxid ส่วนใหญ่จะมีจำหน่าย 2 ความเข้มข้นคือ 2.5% และ 5% ก่อนเลือกใช้ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อน เพื่อประเมินความเหมาะสมว่าลักษณะผิว ความรุนแรงของสิว ควรจะใช้ความแรงเท่าไหร่ และจะใช้ร่วมกับยาอื่นหรือไม่
ทา Benzoyl Peroxide บริเวณที่เป็นสิว ควรระวังอย่าให้ยาเข้าตา จมูก หรือปาก หลีกเลี่ยงอย่าทาใกล้กับบริเวณดวงตา รวมทั้งบริเวณที่เป็นแผล เนื่องจากจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ถ้าหากเผลอไปโดนให้รีบล้างออกด้วยน้ำเปล่าหลาย ๆ รอบ Benzoyl Peroxide อาจจะทำให้สีผม สีผ้าตกได้ ควรระมัดระวังอย่าให้โดนผมหรือเสื้อผ้า
หากทดสอบการแพ้แล้ว ไม่มีอาการแสบ ผิวลอกเป็นขุยมากจนเกินไป ก็สามารถทายาได้ วันละ 1-2 ครั้ง หลังจากล้างหน้าให้สะอาดแล้วซับให้แห้งแล้ว โดยทางเพียงบาง ๆ บริเวณที่เป็นสิว
โดยปกติแล้วการใช้ Benzoyl Peroxide จะเริ่มเห็นผลการรักษาสิวที่ดีขึ้นเมื่อใช้ยาไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ หากยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น อาจต้องพิจารณาเปลี่ยน หรือเพิ่มยาตัวอื่นเพื่อใช้ร่วมในการรักษาสิว Benzoyl Peroxide จะให้ผลการรักษาสูงสุดที่ประมาณ 8-12 สัปดาห์ โดยไม่ควรใช้ Benzoyl Peroxide ในปริมาณที่มากเกินและนานเกินกว่านี้ เนื่องจากไม่ได้ทำให้ผลการรักษาดีขึ้นแต่ทำให้เพิ่มความเสี่ยงของอาการข้างเคียงจากการใช้ยา Benzoyl Peroxide นี้
Benzoyl Peroxide อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิว แสบ คันผิว ผิวลอกและแดงได้ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นการรักษา จึงควรทดสอบการแพ้ในบริเวณเล็ก ๆ ก่อน โดยอาจทายาก่อนล้างหน้าประมาณ 15 นาที ถ้าไม่มีอาการดังกล่าวข้างต้น วันต่อมาให้เพิ่มเวลาเป็น 20, 25 และ 30 นาทีตามลำดับ ถ้ายังไม่มีอาการหรืออาการไม่รุนแรง ก็สามารถทาทิ้งไว้หลังล้างหน้าได้เลย
Benzoyl Peroxide มีกลไกในการช่วยผลัดเซลล์ผิว ซึ่งอาจจะทำให้ผิวหน้าบางลง และทำให้ผิวไวต่อแสงได้ ระหว่างที่ใช้ Benzoyl Peroxide ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหน้าสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ถ้าจำเป็นอาจจะต้องใช้ครีมกันแดด หมวก ร่ม ผ้า ในการป้องกันผิวหน้าไม่ให้สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
หากทดสอบการแพ้แล้ว ไม่มีอาการแสบ ผิวลอกเป็นขุยมากจนเกินไป ก็สามารถทายาได้ วันละ 1-2 ครั้ง หลังจากล้างหน้าให้สะอาดแล้วซับให้แห้งแล้ว โดยทางเพียงบาง ๆ บริเวณที่เป็นสิว
โดยปกติแล้วการใช้ Benzoyl Peroxide จะเริ่มเห็นผลการรักษาสิวที่ดีขึ้นเมื่อใช้ยาไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ หากยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น อาจต้องพิจารณาเปลี่ยน หรือเพิ่มยาตัวอื่นเพื่อใช้ร่วมในการรักษาสิว Benzoyl Peroxide จะให้ผลการรักษาสูงสุดที่ประมาณ 8-12 สัปดาห์ โดยไม่ควรใช้ Benzoyl Peroxide ในปริมาณที่มากเกินและนานเกินกว่านี้ เนื่องจากไม่ได้ทำให้ผลการรักษาดีขึ้นแต่ทำให้เพิ่มความเสี่ยงของอาการข้างเคียงจากการใช้ยา Benzoyl Peroxide นี้
ผลข้างเคียงจากการทา Benzoyl Peroxide
Benzoyl Peroxide อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิว แสบ คันผิว ผิวลอกและแดงได้ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นการรักษา จึงควรทดสอบการแพ้ในบริเวณเล็ก ๆ ก่อน โดยอาจทายาก่อนล้างหน้าประมาณ 15 นาที ถ้าไม่มีอาการดังกล่าวข้างต้น วันต่อมาให้เพิ่มเวลาเป็น 20, 25 และ 30 นาทีตามลำดับ ถ้ายังไม่มีอาการหรืออาการไม่รุนแรง ก็สามารถทาทิ้งไว้หลังล้างหน้าได้เลย
ข้อควรระวัง
Benzoyl Peroxide มีกลไกในการช่วยผลัดเซลล์ผิว ซึ่งอาจจะทำให้ผิวหน้าบางลง และทำให้ผิวไวต่อแสงได้ ระหว่างที่ใช้ Benzoyl Peroxide ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหน้าสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ถ้าจำเป็นอาจจะต้องใช้ครีมกันแดด หมวก ร่ม ผ้า ในการป้องกันผิวหน้าไม่ให้สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น