Hiruscar กับ Hiruscar Postacne ต่างกันยังไง


     หลายคนที่มีปัญหาเรื่องแผลเป็น รอยดำจากสิว คงจะเคยได้ค้นหาหรือได้ยินชื่อของผลิตภัณฑ์สองตัวนี้มาบ้างไม่มากก็น้อย แต่เรื่องที่หลายคนสงสัยก็คือเจ้าสองตัวนี้ชื่อก็คล้าย ๆ กัน แล้วมันต่างกันตรงไหน ใช้ทดแทนกันได้รึเปล่า บางทีไปถามที่ร้านยาก็ไม่มีเวลาถามข้อมูลละเอียดนัก วันนี้เราจะมาจำแนกรายละเอียดกันว่า เจ้าผลิตภัณฑ์สองตัวนี้ ระหว่าง Hiruscar กับ Hiruscar Postacne นั้นต่างกันอย่างไร

Benzoyl Peroxide ยาทารักษาสิว ... ข้อมูลสำคัญ วิธีใช้ ข้อควรระวัง





ข้อบ่งใช้ของ Benzoyl Peroxide

ใช้สำหรับรักษาสิวในระดับที่ยังเป็นน้อยถึงปานกลาง ซึ่งอาจจะใช้ร่วมกับยารักษาสิวชนิดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา หรือเมื่อการใช้ยาเพียงชนิดเดียวไม่ได้ผล 

โดย Benzoyl Peroxide จะทำให้ปริมาณของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวลดลง และยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน รวมทั้งยังทำให้ผิวแห้งลง

วิธีใช้ Benzoyl Peroxide

ก่อนการใช้ Benzoyl Peroxide ควรมีการทดสอบการแพ้โดยการทายาบาง ๆ บริเวณสิวเป็นบริเวณเล็ก ๆ ประมาณ 1 - 2 ตำแหน่ง เป็นเวลา 3 วัน ถ้ามีอาการแพ้ ให้หยุดใช้ยาทันที อาการแพ้จะค่อย ๆ ทุเลาลง ถ้าทายาครบ 3 วันแล้วไม่มีอาการแพ้ แสบ ก็สามารถทายาได้ 

ยาที่มี Benzoyl Peroxide เป็นตัวยาสำคัญมีจำหน่ายมากมาย ที่รู้จักกันในไทยตัวอย่างเช่น

ยาคุมฉุกเฉิน - Myth vs Fact ... ความเชื่อ vs ความจริง


     ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ( Emergency Contraceptive Pills) เป็นวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยยาคุมกำเนิดฉุกเฉินที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย สามารถซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายยานั้นเป็นแบบ Levonorgestrel (LNG) ในขนาดสูง ที่รู้จักกันในชื่อการค้า เช่น Postinor, Madonna, Norpak เป็นต้น 

     ซึ่งยังมีหลาย ๆ คนที่ไม่เข้าใจวิธีใช้ หรือยังเข้าใจผิด มีความเชื่อที่ผิด ๆ ในหลาย ๆ เรื่อง ในบทความนี้เราจะมาสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแบบ Levonorgestrel (LNG) กันครับ

Myth : ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100%

Fact : จาก Fact sheet ขององค์การอนามัยโลก ( WHO ) ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 95%  ถ้ากินอย่างถูกวิธี แสดงว่าก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อยู่ดี ถึงแม้จะเป็นเปอร์เซนต์ที่น้อยก็ตาม

Myth : ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรกินเกิน 2 ครั้งในชีวิต

ขมิ้นชัน (Turmeric) - คุณประโยชน์มากมายจากงานวิจัยทั่วโลก

     

ขมิ้นชัน ( Curcuma Longa Linn.) 

     เป็นพืชจำพวกเหง้า สูง 50-70 cm. ใบรูปหอกปลายแหลม ก้านใบแคบมีร่องเล็ก ๆ  สีเขียวอมน้ำตาล ดอกช่อใหญ่ พุ่มมาจากเหง้าใต้ดิน เนื้อในเหง้ามีสีส้ม กลิ่นฉุน เกิดในภูมิภาคเขตร้อนทั่วไป

     สารสำคัญที่พบ

     Volatile oil 3-4% สารสีเหลือง เป็นสารจำพวก Diferuloyl methane มีชื่อว่า Curcumin, Monodeamethexy curcumin, Didesmethoxy curcumin น้ำมันหอมระเหยพบสาร p-Tolymethyl carbinol ซึ่งมีฤทธิ์ขับน้ำดี

     ข้อมูลทางเภสัชวิทยา

     - นำสารสกัดที่ได้จากขมิ้นชันฉีดเข้าไปในสัตว์ทดลอง พบว่ามีฤทธิ์ต่อต้านเนื้องอก มะเร็งปากมดลูก และมีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งและเนื้องอก ไม่ให้มีการขยายตัวได้
     - น้ำมันระเหยของขมิ้นชันสามารถต่อต้านเชื้อ Staphylococcus เชื้อในลำไส้ใหญ่ Culumbacillus และเชื้ออหิวาต์ได้
     - นำขมิ้นชันให้สัตว์ทดลองก่อนพบว่ามีฤทธิ์กระตุ้นกระเพาะอาหาร และลำไส้ของสัตว์ทดลองให้เกิดการบีบตัว จึงนิยมนำมาใช้ในการขับลม แก้ปวดท้อง และแก้ปวดลำไส้ได้

     ประโยชน์และงานวิจัยทางด้านการแพทย์

เห็ดหลินจือ สมุนไพรที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น God's Herb


     เห็ดหลินจือ (Ling Zhi) เป็นสมุนไพรจีนที่มีประวัติการใช้มายาวนานกว่า 2,000 ปี ในคัมภีร์จีนโบราณ "เสินหนงเปินเฉ่า" ซึ่งเป็นคัมภีร์เก่าแก่ที่สุดของจีนที่มีคนนับถือมาก ได้จัดเห็ดหลินจือเป็นสมุนไพรชั้นสูง มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะที่มีความปลอดภัยสูง ทานได้ในระยะยาว

     เห็ดหลินจือในธรรมชาติพบหลากหลายสายพันธุ์ โดยจำแนกตามสีและสรรพคุณได้อย่างน้อย 6 สายพันธุ์ คือ เห็นหลินจือแดง, เห็ดหลินจือดำ, เห็ดหลินจือเขียว, เห็ดหลินจือขาว, เห็ดหลินจือเหลือง และเห็ดหลินจือม่วง ซึ่งจากการศึกษาวิจัยเป็นที่ยอมรับกันว่า เห็ดหลินจือแดง มีสรรพคุณเป็นประโยชน์ต่อร่างกายกว้างขวางกว่าเห็ดหลินจือชนิดอื่น

     เห็ดหลินจือแดง (Ganoderma lucidum (Fr.) Karst.) เป็นราขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง มีรูปร่างคล้ายไต สีแดงอมน้ำตาลถึงสีม่วงน้ำตาล มีลายเป็นวงแหวน ผิวมันวาว มีลักษณะแข็งเหมือนเนื้อไม้ เนื้อดอกสีขาวนวลถึงสีน้ำตาลอ่อน ใต้หมวกจะเป็นแผ่นสีขาวหรือสีเหลืองนวลปิดครีบเห็ดไว้ ภายในมีรูพรุนเล็ก ๆ จำนวนมากสำหรับบรรจุสปอร์

สรรพคุณ

รีวิวถุงยางอนามัย Durex ยอดฮิต แต่ละรุ่นเหมือนหรือต่างกันอย่างไร

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ condom

     ถุงยางอนามัย ถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญ สำหรับผู้ชายจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นคุณสามีที่ยังไม่พร้อมจะมีลูก หนุ่ม ๆ นักเที่ยวทั้งหลายที่ต้องมีติดตัวไว้เผื่อเหตุฉุกเฉิน เมื่อใช้อย่างถูกวิธี จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ ลดความเสี่ยงของการติดหรือแพร่เชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมทั้งเชื้อ HIV ด้วย

     ซึ่งในปัจจุบันก็มีถุงยางอนามัยหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่นเหลือเกิน ทำให้หลาย ๆ คนก็สับสนได้ไม่น้อยว่ามันแตกต่างกันอย่างไร ครั้นจะไปยืนอ่านทีละรุ่นทีละแบบในร้านสะดวกซื้อก็คงจะรู้สึกแปลก ๆ หรือเขินอาย วันนี้เราจะมาแนะนำความแตกต่าง ความเหมาะสมของแต่ละรุ่นยอดฮิต ที่พบได้บ่อย ๆ ในร้านสะดวกซื้อ รวมทั้งร้านยากันครับ

     การเลือกถุงยางอนามัย นอกเหนือจากยี่ห้อ ความน่าเชื่อถือ ความสมบูรณ์ของบรรจุภัณฑ์ สิ่งแรกที่ต้องดูก็คือ"ขนาด" ซึ่งถุงยางอนามัยทุกยี่ห้อต้องระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ ควรเลือกให้มีขนาดพอดีกับน้องชายของเรา ถ้าเล็กเกินไปก็อาจทำให้ถุงยางอนามัยฉีกขาดได้ง่าย ถ้าใหญ่เกินไปก็อาจทำให้ถุงยางหลุดเลื่อนขณะทำกิจกรรม ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ลดลง โดยไซส์มาตรฐานของชาวไทยปกติคือ ขนาด 49 มม. และ 52.5 มม. หลัง ๆ คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะใช้ขนาด 52.5 มม.มากกว่าคนรุ่นก่อน อาจเพราะขนาดใหญ่ขึ้นกว่าคนสมัยก่อน แต่สิ่งที่สำคัญคือ ต้องอย่าหลอกตัวเอง ควรใช้ขนาดให้เหมาะสมกับน้องชายของเรา เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง

ริดสีดวงทวาร

ริดสีดวงทวาร


อาการของโรคริดสีดวงทวาร

     1. มีการบวมและอักเสบขึ้นที่ผนังหลอดเลือดดำของลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ( Rectum) และทวารหนัก (Anus) การที่ผนังหลอดเลือดดำมีการอักเสบบวม ทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้อหรือติ่งเนื้อยื่นออกมาที่บริเวณทวาร บางรายอาจมีของเหลวลื่น ๆ เหนียว ๆ ไหลออกมาทางทวาร
     2. มักมีอาการคัน ระคายเคือง รอบ ๆ ทวารหนัก
     3. อาจมีเลือดสีแดงสดออกจากทวาร ภายหลังถ่ายอุจจาระ (ถ้าเลือดมีสีคล้ำ อาจเป็นเลือดที่ออกจากบริเวณอวัยวะอื่นภายในระบบทางเดินอาหาร ต้องสังเกตอาการอื่นร่วมด้วย)
     4. เจ็บ ปวด บริเวณทวารหนัก โดยเฉพาะเวลาถ่ายอุจจาระ

ระดับความรุนแรงของริดสีดวงทวาร แบ่งเป็น 4 ระยะ คือ

     1. ระยะที่ 1 เป็นระยะที่ยังไม่มีหัวริดสีดวงทวารยื่นออกมานอกปากทวาร ถ้าท้องผูก อุจจาระแข็ง จะทำให้มีเลือดไหลออกมาด้วยเวลาขับถ่าย

     2 .ระยะที่ 2 เป็นระยะที่เริ่มมีหัวริดสีดวงทวารยื่นออกมาในขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ แต่สามารถหดกลับเข้าไปเองหลังจากขับถ่าย โดยไม่ต้องใช้มือช่วยดันเข้าไป